ไมโครโฟนสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามหลักการทำงาน โครงสร้าง
และการใช้งาน ซึ่งหลัก ๆ แล้วสามารถจำแนกได้เป็น 3 ชนิดหลัก ตามหลักการทำงาน ได้แก่
ทำงานโดยใช้ขดลวดและแม่เหล็กเพื่อแปลงคลื่นเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้า
ทนทานต่อแรงกระแทกและสภาวะต่าง ๆ
ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง (Phantom Power)
เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การร้องเพลงสด งานพูดคุย หรือการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่มีความดังสูง
ใช้แผ่นไดอะแฟรมและแผ่นโลหะเพื่อสร้างสัญญาณไฟฟ้า
ต้องใช้ไฟเลี้ยง (Phantom Power หรือแบตเตอรี่)
มีความไวต่อเสียงสูง เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี
เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงในสตูดิโอ งานพากย์ งานร้องเพลงที่ต้องการคุณภาพสูง
ใช้แถบโลหะบาง ๆ (Ribbon) แขวนอยู่ระหว่างสนามแม่เหล็กเพื่อรับเสียง
ให้เสียงที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ
บอบบาง ต้องดูแลเป็นพิเศษ
เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องในสตูดิโอ
ปัจจุบันใช้น้อยลงเพราะการใช้งานยุ่งยาก มีการต่อวงจรจ่ายไฟเฉพาะ ต้องระมัดระวังในการต่อเข้ากับมิกซ์
นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งไมโครโฟนตามรูปแบบการรับเสียง (Polar Patterns) และการใช้งาน เช่น
คุณสมบัติทิศทางการรับเสียง (Polar Pattern):
Cardioid:
รับเสียงจากด้านหน้าและลดเสียงจากด้านข้างและด้านหลัง เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงที่มาจากทิศทางเดียว
เป็นไมค์ที่ใช้ส่วนใหญ่โดยทั่วไป เช่น ไมค์ร้องเพลง ไมค์จ่อเครื่องดนตรีต่างๆ
Omnidirectional:
รับเสียงจากทุกทิศทาง เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงที่มีแหล่งเสียงบรรยากาศโดยรอบ
Bidirectional:
รับเสียงจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์หรือการสนทนาระหว่างสองด้าน
✅ Lavalier (Lapel) Microphone – ไมค์หนีบปกเสื้อสำหรับงานสัมภาษณ์และการพูด
✅ Shotgun Microphone – ไมค์สำหรับการถ่ายทำวิดีโอและภาพยนตร์
✅ USB Microphone – ไมค์ที่เชื่อมต่อผ่าน USB ใช้งานง่าย เหมาะกับพอดแคสต์และสตรีมมิ่ง
✅ Wireless Microphone – ไมค์ไร้สายที่ใช้คลื่นวิทยุหรือบลูทูธ